เมื่อก่อนลุงงานแสดงเยอะ เงินเยอะมาก แต่ด้วยเราอายุมากแล้ว บทบาทก็น้อยลง


เมื่อก่อนลุงงานแสดงเยอะ เงินเยอะมาก แต่ด้วยเราอายุมากแล้ว บทบาทก็น้อยลง
ความจำลุงไม่ค่อยดีเหมือนแต่ก่อน ลุงกลายเป็นคนไร้งาน ไร้เงิน ชีวิตพลิกไปเลย
เคยท้อกับชีวิต จนไม่อยากอยู่แล้ว
จนตอนนี้ลุงอายุ 71 แล้ว ผันตัวมาเป็นพ่อค้าขายหมูเต๊ะ พอมีเงินไว้กิน ไว้ใช้ไปวันๆ
ประคับประคองตัวเองให้รอดในยุคนี้
ใครที่กำลังท้อ หรือหมดหวัง ขอให้สู้นะครับ ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ

ต้องอ่านสิ่งนี้

คนที่ทำงานเงินน้อยๆไม่มีความก้าวหน้าไม่มีอนาคตจนตัวเองอายุเยอะๆไปไหนไม่ได้แล้วตอนยังมีเวลาเขาไม่ได้คิดถึงอนาคตกันหรือคับ

ก่อนอื่นขอแจ้งไว้ก่อนนะครับไม่มีเจตนาดูถูกดูหมิ่นใครหรืออาชีพใดๆนะครับ ตั้งกระทู้เพราะความสงสัยจริงๆ

พูดถึงคนที่จบปริญญาตรี เป็นฐาน นะครับ

คือฟังมาเยอะ เห็นมาเยอะ คนที่อายุเยอะๆ 35-50 ปี (อายุที่เปลื่ยนงานลำบาก)แต่เงินเดือนยังน้อยๆ(ไม่กี่พัน-หมื่นกลางๆ) ทำงานที่ต่อยอดลำบาก ทำไปก็ไม่ก้าวหน้าย่ำอยู่กับที่มาเป็น 10 ปี ทรัพย์สิน(บ้าน รถ ที่ทำกิน) เงินทอง ติดตัวก็มีนิดเดียว(ตกงานใช้ไม่กี่เดือนก็หมด)

คือดูแล้วไม่มีอนาคต ทำไปจนเกษียณก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นเหลือเงินเก็บไม่กี่บาท ไม่มีทรัพย์สินเงินทองอะไร ชีวิตหลังเกษียณและลูกหลานจะอยู่อย่างไร ความก้าวหน้าของลูกหลานจะเป็นอย่างไร บางท่านอาจแย้งว่าเขาออาจจะออกไปค้าขายจนร่ำรวยก็ได้ ก็จริงครับ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำอาชีพค้าขายได้นะครับ คนไม่ถนัดทางนี้ก็เยอะ แถมไม่มีทุน ไม่มีองค์ความรู้ อีกตังหาก และไม่ใช่ทุกคนนะครับที่จะมีที่ทางอยู่ที่บ้านนอกให้ไปทำกินตอนแก่ ชาวนาบางคนยังต้องเช่าที่ทำนาด้วยซ้ำ

อยากถามว่า ตอนหนุ่มๆสาวๆ ตอนยังมีเวลา เขาไม่คิดถึงอนาคต หรือ ถามหาอนาคตที่ดีกันบ้างหรือครับ และ ทำไมถึงปล่อยเวลา เนิ่นนานจนแทบแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเพราะอะไร ครับ

(ส่วนตัวคิดว่าต่อให้เราไม่มีอะไรติดตัวมาเลย ถ้าเรียนจบตรี มาแล้ว อย่างน้อยๆ ก็ควรมีเงินมีการงานรายที่สมเหตุสมผล พอเลี้ยงตัว ใช้ชีวิตกินอยู่อย่างสมฐานะสมกับวุฒิ พอซื้อทรัพย์สมบัติ บ้านเรือน พักผ่อน ใช้ชีวิต สร้างเนื้อสร้างตัว พอส่งเสริมลูกหลาน พออยู่กินใช้อย่างสบายหลังเกษียณ )