วันที่ 10 เม.ย. 2567 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม 1. นายประเสริฐฯ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 340/2567 ลงวันที่ 5 เม.ย.2567 ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
2. น.ส.เพ็ญพรฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเพใต้ ที่ 345/2567 ลงวันที่ 5 เม.ย.2567 ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนสาธารณะ ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน มีนาคม 2566 ผู้เสียหายได้เข้าไปดูเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า ห้องคุยนักลงทุน ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ โดยเพจดังกล่าวจะแนะนำการลงทุนในการเทรดหุ้น ซึ่งได้รับผลตอบแทนที่สูง ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้มีการพูดคุยกับบุคคลที่อ้างตัวเป็นนักลงทุน โดยมีการให้ผู้เสียหายติดต่อพูดคุยผ่านบัญชีไลน์ชื่อว่า รศ.ดร.ไพบูลย์ และได้ชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนเทรดหุ้น ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้มีการโอนเงินร่วมเทรดหุ้นดังกล่าว
โดยผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีต่างๆ หลายครั้งกว่า 20 บัญชี รวมเป็นเงินจำนวน 21 ล้านบาท ซึ่งต่อมาเมื่อผู้เสียหายจะขอถอนเงินจากการเทรดหุ้น กลับถูกอ้างว่าจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นอีกร้อยละ 40 ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกหลอก จึงได้เเจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนจนทราบว่า บัญชีธนาคารที่ผู้เสียหายโอนเงินไปนั้น มีบัญชีของนายประเสริฐฯ และ น.ส.เพ็ญพรฯ ที่รับโอนเงินจาก ผู้เสียหายไป พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองตามหมายจับดังกล่าว
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง จนภายหลังทราบว่านายประเสริฐฯ และ น.ส.เพ็ญพรฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในชุมชน ตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันเดินทางมาตรวจสอบยังบริเวณดังกล่าว เมื่อพบผู้ต้องหาจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าบัญชีธนาคารของตนน่าจะถูกเเฮกข้อมูล เนื่องจากพวกตนเคยนำโทรศัพท์ของตนทั้งสองไปจำนำกับคนแปลกหน้า ที่อ้างว่าจะรับจำนำโทรศัพท์โดยให้ราคาสูง